Close
title
f
title
แขวงทางหลวงหนองคาย
NONG KHAI HIGHWAY DISTRICT
วิสัยทัศน์ : องค์กรที่มีศักยภาพด้านบำรุงทางที่ได้มาตรฐาน คุณภาพดี ขับขี่ ประหยัด สะดวก ปลอดภัย ประทับใจผู้ใช้ทาง
 
ข่าวสารทางหลวง
title
กรมทางหลวงยังระดมกำลังวางกระสอบทรายกั้นน้ำกอบกู้เส้นทางน้ำท่วม จัดรถ รับ – ส่ง ช่วยเหลือประชาชน พร้อมสรุปสถานการณ์น้ำท่วมบนทางหลวง ประจำวันที่ 19 ต.ค. 65 ยังผ่านไม่ได้ 22 แห่ง

ลงวันที่ 19/10/2565 นายสราวุธ  ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมทางหลวงได้ดำเนินภารกิจกู้เส้นทางในหลายจังหวัด โดยได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ วางกระสอบทรายกั้นน้ำบริเวณริมไหล่ทางด้านนอกและสูบน้ำที่ท่วมผิวทางในเส้นทางที่ได้รับผลกระทบ ตลอด 24 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังมีการมีการมอบเวชภัณฑ์ให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม เพื่อเป็นขวัญกำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ ให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างสำเร็จลุล่วง พร้อมเฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากพื้นที่ใดประสบปัญหาก็จะระดมบุคลากร นำเครื่องจักรและวัสดุอุปกรณ์เข้าให้การช่วยเหลือเพื่อเร่งระบายน้ำและบรรเทาความเดือดร้อนโดยเร็วที่สุด เพื่อรักษาสภาพถนนให้ประชาชนเดินทางได้อย่างปลอดภัย ป้องกันเส้นทางไม่ให้เกิดทางขาด สะพานขาดอย่างเต็มที่ สำหรับเส้นทางที่น้ำลดแล้วได้มีการสำรวจความเสียหายของ ถนน สะพาน และระบบระบายน้ำ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนให้ได้รับความสะดวกปลอดภัยในการสัญจรโดยเร็วที่สุดอย่างต่อเนื่อง ตามข้อสั่งการของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่มีความห่วงใยประชาชนผู้ประสบภัยในครั้งนี้ พร้อมทั้งเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง   พร้อมกันนี้กรมทางหลวง ได้ทำการสรุปสถานการณ์อุทกภัยและดินสไลด์บนทางหลวง โดย สถานการณ์ประจำวันที่ 19 ตุลาคม  2565 เวลา 12.30 น. พบทางหลวงถูกน้ำท่วม/ดินสไลด์ ในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ จ.ขอนแก่น, จ.ศรีสะเกษ, จ.หนองบัวลำภู , จ.อุบลราชธานี, จ.มหาสารคาม, จ.อ่างทอง, จ.พระนครศรีอยุธยา และ จ.สิงห์บุรี จำนวน 21 สายทาง 29 แห่ง  การจราจรผ่านไม่ได้ 22 แห่ง ดังนี้   จังหวัดขอนแก่น จำนวน 3 แห่ง ได้แก่         - ทางหลวงหมายเลข 2065 ตอน พล – ลำชี ในพื้นที่ อ.พล ช่วง กม.ที่ 33+150 – 34+000 ทางขาด ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน         - ทางหลวงหมายเลข 2131 ตอน บ้านสะอาด – เหล่านางาม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 6+700 – 8+200 ระดับน้ำ 20 - 30 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน                     - ทางหลวงหมายเลข 2183 ตอน น้ำพอง – โคกท่า ในพื้นที่ อ.น้ำพอง ช่วง กม.ที่ 14+200 – 15+100 ระดับน้ำ 45 – 55 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงแยกโคกท่า กม.25+600        จังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 8 แห่ง ได้แก่          - ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ศรีสะเกษ – ห้วยขะยุง ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 311+000 – 313+384 ระดับน้ำ 55 – 60 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2178         - ทางหลวงหมายเลข 2083 ตอน หัวช้าง – สะเดา ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 16+000 – 19+500 ระดับน้ำ 45 – 70 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน          - ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน – เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วงกม.ที่ 27+500 – 29+000 ระดับน้ำ 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน         - ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน - เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วง กม.ที่ 30+000 – 31+500 ระดับน้ำ 45 - 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน           -ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน บ้านด่าน - เมืองน้อย ในพื้นที่ อ.ราษีไศล ช่วง กม.ที่ 37+000  - 39+500 ระดับน้ำ 45 - 50 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้                       - ทางหลวงหมายเลข 2086 ตอน เมืองน้อย – กันทรารมย์ ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่103+500 – 107+125 ระดับน้ำ 80 - 90 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน            - ทางหลวงหมายเลข 2373 ตอน โนนสำนัก – ดอนไม้งาม ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+050 ระดับน้ำ 45 - 75 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน           - ทางหลวงหมายเลข 2412 ตอน ท่าศาลา – ละทาย ในพื้นที่ อ.กันทรารมย์ ช่วง กม.ที่ 12+000 – 16+500 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 50 - 70 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้เส้นทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน   จังหวัดหนองบัวลำภู จำนวน 1 แห่ง         - ทางหลวงหมายเลข 2146 ตอน หนองบัวลำภู - เขื่อนอุบลรัตน์ ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 39+500 – 42+000 ระดับน้ำ 45 - 60 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยง ทช.4013   จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 6 แห่ง           -ทางหลวงหมายเลข 23 ตอน เขื่องใน - อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมืองอุบลราชธานี ช่วง กม.ที่ 260+700 – 261+800 ระดับน้ำ 35 - 55 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.2383         - ทางหลวงหมายเลข 24 ตอน วารินชำราบ - อุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 418+400 – 419+600 ระดับน้ำ 105 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.217 ทางแยกต่างระดับบัวเทิง เลี้ยวซ้ายไปสะพานข้ามแม่น้ำมูล เข้าสู่ตัวเมืองอุบลราชธานี           - ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 313+400 – 313+700 ระดับน้ำ 50 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.2178          - ทางหลวงหมายเลข 226 ตอน ห้วยขะยุง – วารินชำราบ ในพื้นที่ อ.วารินชำราบ ช่วง กม.ที่ 319+600 – 319+800 ระดับน้ำ 70 - 80 ซม. ใช้ทางเลี่ยง ทล.2178          - ทางหลวงหมายเลข 231 ถนนวงแหวนรอบเมืองอุบลราชธานี ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 3+600 – 8+200 ระดับน้ำ 80 - 115 ซม. ใช้ทางเลี่ยงถนนวงแหวนด้านทิศตะวันออก ทล.231           - ทางหลวงหมายเลข 2404 ตอน เขื่องใน – นาคำใหญ่ ในพื้นที่ อ.เขื่องใน ช่วง กม.ที่ 9+920 – 14+480 เป็นช่วงๆ ระดับน้ำ 50 - 65 ซม. ให้ใช้เส้นทางเลี่ยง ทล.2382   จังหวัดอ่างทอง จำนวน 1 แห่ง          - ทางหลวงหมายเลข 3501 ตอน อ่างทอง – บางหลวงโดด ในพื้นที่ อ.ป่าโมก ช่วง กม.ที่ 9+900 – 11+000 ระดับน้ำนอกคันกั้นดิน 80 ซม. น้ำท่วมผิวจราจร 15 - 20 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้   6.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวน 1 แห่ง          - ทางหลวงหมายเลข 3412 ตอน อยุธยา - บางบาล ในพื้นที่ อ.บางบาล ช่วง กม.ที่ 9+793 – 15+950 ระดับน้ำ 35 - 50 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยง เลี้ยวซ้ายเข้าวัดบ้านขวางออกทางหลวงชนบท 4038   จังหวัดสิงห์บุรี จำนวน 3 แห่ง         - ทางหลวงหมายเลข 311 ตอน แยกวัดสนามไชย - วัดกระดังงา ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 32+022 – 35+100 ระดับน้ำ 80 - 100 ซม. (ทางโค้งด้านใน) การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงชนบท สห.3030         - ทางหลวงหมายเลข 311 ตอน วัดกระดังงา  - บ้านม้า ในพื้นที่ อ.อินทร์บุรี ช่วง กม.ที่ 39+900 – 44+100 ระดับน้ำ 65 - 80 ซม. การจราจรไม่สามารถผ่านได้ ให้ใช้ทางเลี่ยงทางหลวงหมายเลข 32 (สายเอเชีย)         - ทางหลวงหมายเลข 3030 ตอน ดงมะขามเทศ – บางระจัน ในพื้นที่ อ.เมือง ช่วง กม.ที่ 0+000 – 0+100 ระดับน้ำ 30 - 40 ซม. ให้ใช้ทางเลี่ยงท้องถิ่นแทน   ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้สั่งการให้ สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงทั่วประเทศ เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากมีพื้นที่ใดประสบปัญหา เจ้าหน้าที่จะเข้าพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนทันที ตามนโยบายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม  นอกจากนี้กรมทางหลวงได้ติดตั้งป้ายเตือนและอุปกรณ์ความปลอดภัย อุปกรณ์นำทาง ในบริเวณทางหลวงที่ถูกน้ำท่วม พร้อมเฝ้าระวังสถานการณ์จนกว่าจะคลี่คลาย โดยขอให้ประชาชนผู้ใช้ทางโปรดใช้ความระมัดระวังในการเดินทาง ปฏิบัติตามป้ายเตือน ป้ายแนะนำ และคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด หากประชาชนต้องการสอบถามสภาพเส้นทาง สภาพการจราจร หรือ ต้องการความช่วยเหลือสามารถติดต่อ ได้ที่สำนักงานทางหลวง แขวงทางหลวง หมวดทางหลวงในพื้นที่ และสายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง) และสามารถติดตามการรายงานสถานการณ์สภาพเส้นทางและเส้นทางเลี่ยงได้ที่ทวิตเตอร์กรมทางหลวง @prdoh1
title
รับลมหนาวฟรี! กรมทางหลวง เปิดจองพื้นที่กางเต็นท์ทั่วประเทศ 38 แห่ง เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวและเทศกาลปีใหม่ สอบถามโทร 1586

ลงวันที่ 09/12/2564 รับลมหนาวฟรี! กรมทางหลวง เปิดจองพื้นที่กางเต็นท์ทั่วประเทศ 38 แห่ง เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวในช่วงฤดูหนาวและเทศกาลปีใหม่ สอบถามโทร 1586นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง เปิดเผยว่า กรมทางหลวงได้ขานรับนโยบายการเปิดประเทศตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา ของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในการสนับสนุนการท่องเที่ยวภายในประเทศทำให้มีประชาชนเดินทางไปท่องเที่ยวพักผ่อนรับลมหนาวโดยเฉพาะทางภาคเหนือและจังหวัดท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก กรมทางหลวงจึงได้จัดเตรียมจุดบริการกางเต็นท์ทั่วประเทศ จำนวน 38 แห่ง แบ่งเป็นภาคเหนือ 30 แห่ง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 3 แห่ง ภาคตะวันตก 3 แห่ง ภาคกลาง 2 แห่ง เพื่ออำนวยความสะดวกและรองรับการท่องเที่ยวของประชาชน โดยพื้นที่กางเต็นท์แต่ละแห่งจะตั้งอยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของหมวดทางหลวงซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกและให้บริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมบริการน้ำดื่ม ห้องสุขา และสอบถามข้อมูลทางหลวงสำหรับประชาชนที่ต้องการพักค้างคืนสามารถเข้าพักได้ตั้งแต่วันนี้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม กรมทางหลวงยังได้มีมาตรการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อโควิดอย่างเคร่งครัดโดยผู้เข้าพักต้องได้รับการฉีดวัคซีนโควิด – 19 ครบ 2 เข็ม หากไม่ได้รับการฉีดวัคซีนฯซึ่งจะต้องตรวจ ATK ไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเข้าพักและมีการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ซึ่งจะช่วยให้ผู้เข้าพักปลอดภัยยิ่งขึ้นจุดบริการลานลานกางเต็นท์ จำนวน 38 แห่ง มีดังต่อไปนี้จังหวัดเชียงใหม่ 3 แห่งหมวดทางหลวงจอมทอง ทล.1009 ตอน จอมทอง - ดอยอินทนนท์ กม.31+450หมวดทางหลวงแม่แตง ทล.1095 ตอน หนองโค้ง - กิ่วคอหมา กม.14+584หมวดทางหลวงเชียงดาว ทล.107 ตอน แม่ทะลาย - หัวโท กม.84+215จังหวัดลำปาง 2 แห่งหมวดทางหลวงสบปราบ ทล.1 ตอน สบปราบ - เกาะคา กม.650+917หมวดทางหลวงห้างฉัตร ทล.11 ตอน แยกภาคเหนือ - ขุนตาน กม.482+356จังหวัดแม่ฮ่องสอน 5 แห่งหมวดทางหลวงแม่สะเรียง ทล.108 ตอน สะพานแม่ริด - ห้วยงู กม.197+350หมวดทางหลวงแม่ลาน้อย ทล.108 ตอน ห้วยงู - หนองแห้ง กม.240+750หมวดทางหลวงขุนยวม ทล.108 ตอน หนองแห้ง-แม่สุริน กม.284+856หมวดทางหลวงแม่ฮ่องสอน ทล.1095 ตอน ท่าไคร้ - แม่ฮ่องสอน กม.197+907หมวดทางหลวงปาย ทล.1395 ตอน ทางเข้าปาย กม.4+100จังหวัดเชียงราย 2 แห่งหมวดทางหลวงแม่ลาว ทล.1 ตอน พาน - บ้านร่องขุ่น กม.896+845หน่วยบำรุงทางภูชี้ฟ้า ทล.1093 ตอน ขุนห้วยไคร้ - ผาตั้ง กม.63+500 (ขาเข้า)จังหวัดน่าน 3 แห่งหมวดทางหลวงนาน้อย ทล.1083 ตอน เด่นชาติ - นาน้อย กม.69+485 (ขาออก)หมวดทางหลวงผาช้างน้อย ทล.1148 ตอน สะเกิน - สบทุ กม.82+000(ขวาทาง)หมวดทางหลวงบ่อเกลือ ทล.1081 ตอน หลักลาย - บ่อเกลือ กม.67+110จังหวัดบึงกาฬ 1 แห่งหมวดทางหลวงศรีวิไล ทล.222 ตอน ท่ากกแดง - บึงกาฬ กม.102+526จังหวัดกำแพงเพชร 4 แห่งสำนักงานแขวงกำแพงเพชร ทล.1 ตอน ปากดง - นครชุม กม.453 + 076 (ขาออก)หมวดทางหลวงคลองขลุง ทล.1 ตอน โนนปอแดง - ปากดง กม.423+809 (ขาออก)หมวดทางหลวงโกสัมพีนคร ทล.1 ตอน นครชุม - วังเจ้า กม.476+553 (ขาเข้า)หมวดทางหลวงคลองลานพัฒนา ทล.1117 ตอน คลองแม่ลาย - อุ้มผาง กม.55+000 (ขาออก)จังหวัดตาก 6 แห่งหมวดทางหลวงหนองบัวใต้ ทล.1 ตอน วังเจ้า - ตาก กม.511+826หมวดทางหลวงแม่สลิด ทล.1 ตอน วังม่วง - แม่เชียงรายบน กม.560+449หมวดทางหลวงแม่สอด ทล.12 ตอน กลางสะพานมิตรภาพที่แม่สอด (เขตแดนไทย/พม่า) - แม่ละเมา กม. 33+621หมวดทางหลวงท่าสองยาง ทล.105 ตอน แม่สลิดหลวง - แม่เงา กม.115+550หมวดทางหลวงคีรีราษฎร์ ทล.1090 ตอน ห้วยน้ำริน - อุ้มผาง กม.88+050หมวดทางหลวงอุ้มผาง ทล.1090 ตอน อุ้มผาง - กะแง่คี กม.165+799จังหวัดสุโขทัย 1 แห่งหมวดทางหลวงแม่สิน ทล.101 ตอน ศรีสัชนาลัย - แม่สิน กม.184+219 (ขวาทาง)จังหวัดพิษณุโลก 1 แห่งหมวดทางหลวงแก่งโสภา ทล.12 ตอน วังทอง-เข็กน้อย กม.269+100จังหวัดเพชรบูรณ์ 1 แห่งหมวดทางหลวงเขาค้อ ทล.2196 ตอน นางั่ว - ทุ่งสมอ กม.23+600จังหวัดเลย 2 แห่งหมวดทางหลวงภูกระดึง ทล.201 ตอน ผานกเค้า-หลักร้อยหกสิบ กม.266+737หมวดทางหลวงปากชม ทล.211 ตอน ปากชม-เชียงคาน กม.148+350จังหวัดศรีสะเกษ 1 แห่งหมวดทางหลวงกันทรลักษ์ ทล.221 ตอน แยกการช่าง - เชิงบันไดเขาพระวิหาร กม.59+900จังหวัดกาญจนบุรี 2 แห่งหมวดทางหลวงไทรโยค ทล.323 ตอน แยกปากกิเลน - น้ำตกไทรโยคใหญ่ กม.116+574 (ขาออก กทม.) หมวดทางหลวงทองผาภูมิ ทล.323 ตอน แก่งประลอม - ทองผาภูมิ กม.181+058 (ขาเข้า กทม.)จังหวัดอุทัยธานี 2 แห่งหมวดทางหลวงบ้านไร่ ทล.3011 ตอน บ้านไร่ - บ้านใต้ กม.5+006ศูนย์บำรุงทางและบริการประชาชน(เป็นพื้นที่อยู่ในความรับผิดชอบของหมวดทางหลวงบ้านไร่) ทล.3011 ตอน บ้านไร่ - บ้านใต้ กม.24+200จังหวัดราชบุรี 1 แห่งหมวดทางหลวงสวนผึ้ง ทล.3208 ตอน น้ำพุ - เมืองผาปกค้างคาว กม.43+550จังหวัดอุบลราชธานี 1 แห่งหมวดทางหลวงโขงเจียม ทล.2222 ตอน โขงเจียม-สะพือ กม.0+925หากประชาชนต้องการจองพื้นที่กางเต็นท์หรือสอบถามข้อมูลรายละเอียดเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่สายด่วนกรมทางหลวง 1586 (โทรฟรีทุกเครือข่ายตลอด 24 ชั่วโมง)